SCENT OF MEMORY
นอกจากสไตล์การแต่งตัวที่อเลซซานโดร มิเคเล่ พยายามปลดแอกคำจำกัดความของ 'เพศสภาพ' จากเดิมที่เคยมี ให้กลายเป็นผลงานแฟชั่นที่ไร้เส้นแบ่งต่อจากนี้ กลิ่นหอมก็เป็นอีกศาสตร์สัมผัสที่ Gucci ต้องการทลายกรอบข้อกำหนดการแบ่งแยกความเป็นหญิงชาย ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวตนของผู้ใช้ที่เต็มไปด้วยอิสระเสรี จึงเกิดเป็นที่มาของ Gucci Mémoire d’une Odeur น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดในสไตล์ยูนิเซ็กส์ ที่ว่าด้วยเรื่องความทรงจำ จากอดีตอันหอมหวนในวันวาน แต่ทว่ากลับให้ตราตรึงความงดงามไว้อย่างร่วมสมัย
อเลสซานโดร มิเคเล่ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์กุชชี่ กล่าวว่า “ทุกอย่างเกิดจากความหลงใหลในกลิ่นหอมของฉันทั้งสิ้น : เมื่อฉันได้กลิ่นหอมแรกจากความทรงจำในอดีตอันแสนตราตรึง เกิดเป็นน้ำหอมที่ส่งกลิ่นหอมชวนหลงใหล เพียงแค่หลับตาก็เสมือนทะยานสู่ห้วงอวกาศ ข้ามกาลเวลา ด้วยประสิทธิภาพของน้ำหอม Gucci Mémoire d’une Odeur จากกุชชี่ ก่อเกิดจินตนาการแบบไร้ขีดจำกัด”






โดยกลิ่นหอมของ Gucci Mémoire d’une Odeur เปรียบเสมือนการปลดพันธนาการด้านข้อจำกัดทางเพศ ให้มีอิสระอย่างโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ พร้อมสูตรลับของส่วนผสมที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ด้วยการนำกลิ่นหอมละมุนอ่อนๆของดอกคาโมมายล์โรมันที่มิเคเล่นึกถึงเมื่อครั้งในอดีต นำมาหลอมรวมเข้ากับเอาแรงบันดาลใจการปรุงกลิ่นหอมบทใหม่ร่วมกับ Alberto Morillas เกิดเป็นน้ำหอมแสนเลอค่าที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมจาก ดอกคาโมมายล์โรมัน ผสานเข้ากันกับกลีบดอกเข็มสีแดงที่หอมอ่อนโยน ร่วมกับมัสก์จากสัตว์อันล้ำลึก เคล้าด้วยกลิ่นไม้จันทน์ที่เพิ่มสัมผัสอันแสนอบอุ่น อีกทั้งนำคุณค่าจากไม้ ซีดาร์กลิ่นอ่อน ๆ ร่วมกับ กลิ่นน้ำผึ้งที่หอมหวานแสนยวนเย้า ก่อนตบท้ายด้วย กลิ่นวานิลลาจางๆ ที่ส่งกลิ่นหอมแบบเข้าถึงในทุกอณูของประสาทสัมผัส
ในด้านการออกแบบขวดน้ำหอมนั้น อเลซซานโดร มิเคเล่ เลือกนำเอาเสน่ห์ในความเก่าแก่ โบราณจากอารยธรรมอันรุ่งเรืองแบบโรมัน มาผสมผสานเข้ากับความสนุกสนานจากโมทีฟอันเป็นเอกลักษณ์ของกุชชี่ รรจุลงในขวดแก้วใสสีเขียว โดดเด่นด้วยฝาปิดสีทอง และเพิ่มความงดงามด้วยการตกแต่งคอขวดด้วยโลหะสีทองสด พร้อมกับตอกย้ำความสมบูรณ์แบบด้วยการประดับโลโก้ Gucci ที่เป็นสัญลักษณ์ของความหอมที่ใคร ๆ ก็ควรมีไว้ครอบครอง
