ปัจจุบันนี้ มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เลือกวิถีวีแกน ไม่ใช่แค่เหล่าคนดังเท่านั้น วีแกนไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นการดำเนินชีวิตซึ่งตั้งใจไม่เบียดเบียนสัตว์ ทั้งในเรื่องอาหารการกิน ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน นาตาลี พอร์ตแมน นักแสดงสาวผู้เลือกวิถีวีแกนเคยกล่าวว่า “ฉันเตือนตัวเองสามครั้งต่อวันว่า ฉันให้ค่ากับชีวิต และไม่อยากนำความเจ็บปวด หรือคร่าชีวิตของสิ่งอื่น เพราะอย่างนี้ ฉันจึงเลือกวิถีการกินแบบนี้”
แต่ถึงจะเป็นวีแกน คุณก็ยังดื่มด่ำกับการใช้ชีวิตได้อยู่ เพราะปัจจุบันมีร้านจำนวนไม่น้อยที่ตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตล์วีแกน อย่างล่าสุด โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นำโดย พาโบล คิกเคล หัวหน้าเชฟ เบเกอรี่คนใหม่ ได้นำเสนอเซ็ตน้ำชายามบ่าย Vegan and Gluten-free Afternoon Tea ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของห้อง The Authors’ Lounge ทางทีมงานเล่าว่านอกจากจะเพื่อตอบสนองต่อเทรนด์การบริโภคของผู้คนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นแล้ว “บางครั้ง เวลามาจิบชาสังสรรค์กับเพื่อน ก็เห็นบางคนไม่สามารถเอ็นจอยกับเพื่อนได้เพราะเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีไม่วีแกน เราก็เลยตั้งใจคิดเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีนี้ขึ้นมา”
ถือเป็นความท้าทายเลยแหละที่ต้องทำขนมโดยไม่ใช้โปรดักต์อย่างนมหรือเนยซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญ แต่เชฟพาโบลได้คัดสรรรสชาติความอร่อยอย่างลงตัว กับ ของว่างและขนมหวานซึ่งเป็นวีแกนและ ไร้สารกลูเตน 13 ชนิด อาทิ พัฟฟ์ไส้เชดดาร์ชีสแบบวีแกนและโปรตีนซึ่งเป็นวีแกน, ไส้กรอกบราทเวิร์สท์ซึ่งเป็นวีแกนกับดิจองมัสตาร์ด, ทาร์ตถ่านไส้ฟักทองและเห็ดทรัฟเฟิลดำ, เค้กอัลมอนด์ แบบ Calisson ไส้แยมส้มแมนดาริน และ พลาดไม่ได้กับ สโคนไส้ลูกเกดสีทองผสมแอปเปิลแกรนนีสมิธ เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดแยมกุหลาบ ราสพ์เบอร์รี่ และครีมเต้าหู้



สำหรับชาววีแกน หรือใครก็ตามที่อยากมาลองลิ้มรส ชุดน้ำชายามบ่ายแบบวีแกนและไร้สารกลูเตนนี้มีให้บริการแล้วใน ราคา 1,500++ บาท ต่อท่าน (ราคาสุทธิ 1,767 บาท) ที่ห้อง The Authors’ Lounge ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 18.00 น.