Interview: The cast of The King: Eternal Monarch
ซีรีส์เกาหลีที่ฮ็อตที่สุดจาก Netflix ในช่ววงนี้ต้องยกให้กับ The King: Eternal Monarch ผลงานของผู้กำกับแบคซังฮุงและนักเขียนบท คิมอึนซุก (เคยเขียนเรื่อง Goblin) และนำแสดงโดยคิมโกอึน, อีมินโฮ, จองอึนแช, อูโดฮวาน, คิมคยองนัม ความน่าติดตามเกิดจากพล็อตเรื่องจักรวาลคู่ขนาน โดยโลกหนึ่งปกครองแบบจักรวรรดิและอีกโลกเป็นสาธารณรัฐ โดยตัวละครมีอีกภาคหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในอีกมิติเวลาหนึ่ง เป็นการนำเสนอถึงประเด็นตัวตน โดยมีคำถามสำคัญคือ “คุณจะยอมเลิกเป็นคนที่คุณกำลังจะเป็นแล้วแลกกับคุณอีกคนหนึ่งหรือเปล่า”
“นักเขียน คิมอึนซุก สร้างจักรวาลคู่ขนานอันน่าทึ่งให้กับ The King” คิมโกอึนกล่าวเมื่อถูกถามความคิดเห็นเรื่องบท “วิธีการเล่าเรื่องเต็มไปด้วยรายละเอียดและชวนให้พิศวง และตัวละครก็โลดแล่นอย่างมีชีวิตชีวา”

เรื่องราวเริ่มต้นในวันหนึ่งแสนธรรมดาเมื่อนักสืบสาวจองแทอึล (รับบทโดยคิมโกอึน) และ อีกน (รับบทโดย อีมินโฮ) กษัตริย์แห่งอจักรวรรดิเกาหลี มาพบกันหน้าประตูเชื่อมมิติของทั้งสองโลก และนับแต่นั้น อดีตและอนาคตของพวกเขาก็พัวพันกัน และหลุดเข้าไปในอนาคตอันคาดไม่ถึง ซึ่งมีสิ่งที่ต้องตัดสินใจรออยู่
“สำหรับผม มันเป็นเหมือนเทพนิยายที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจมากกว่า คาแร็กเตอร์แต่ละตัวมีเอกลักษณ์ของตัวเอง และทำให้เกิดเคมีที่น่าดึงดึดระหว่างกัน” อีมินโฮกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวซีรีส์ The King: Eternal Monarch
อยากให้เล่าถึงจักรวาลคู่ขนานและบทของคุณใน The King: Eternal Monarch
อีมินโฮ: “The King เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในจักรวาลคู่ขนาน ตัวละครแสดงบทบาทที่แสดงให้เห็นความแตกต่างของยุคสมัยและเวลาที่ต่างกัน ผมพยายามทำความเข้าใจตัวละครอีกนอย่างมากเลยครับ เขาผ่านอะไรมา เขามาจากไหน ผมว่าผู้ชมจะสัมผัสได้”
คิมโกอึน: “แทอึลกับลูน่าแตกต่างกันอย่างมากเลยค่ะ การทำให้ตัวละครทั้งสองแสดงออกอย่างสมจริง ฉันใช้เวลาอย่างมากจินตนาการว่าพวกเขาพูดจาอย่างไร มีเอเนอจี้แค่ไหน หรือแม้แต่แต่งตัวอย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สวมบทเป็นสองคาแร็กเตอร์พร้อมกันนับตั้งแต่เข้าวงการมา ฉันรู้สึกสนุกมากแม้ว่าจะรู้สึกเครียดด้วย แต่สุดท้ายแล้ว ฉันเอ็นจอยกับบทสนทนาในหัวฉันระหว่างแทอึลกับลูน่าค่ะ”
เราสัมผัสได้ถึงเคมีระหว่างอีกนและแทอึลซึ่งมาจากบุคลิกที่มีสองภาคของพวกเขา
อีมินโฮ : “ใช่ครับ! อีกน มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ในขณะที่แทอึลมาทางสายศิลปะ ในเรื่องนี้ ผมต้องศึกษาคณิตศาสตร์กับฟิสิกส์เพื่อจะได้แสดงให้ได้สมบบทบาท (หัวเราะ) อีกนเป็นคนที่มีเหตุผล มีคำตอบเป๊ะๆ และให้เวลากับการค้นหาความจริงเพราะเขาให้ความสำคัญกับมัน บางทีมันก็ทำให้คนรอบตัวเขาเหนื่อยหน่าย แต่ทุกคำที่เขาพูด เขาหมายความตามนั้น”
คิมโกอึน: “แทอึลเป็นขั้วตรงข้ามกับอีกนเลยล่ะค่ะ และไม่มีทางที่เธอจะเป็นสายวิทยาศาสตร์ (หัวเราะ) ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดีนะ แต่ฉันรู้สึกเข้าใจตัวละครแทอึลเหมือนกับว่าฉันรู้ว่าเธอรู้สึกหรือจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เธอไม่ใช่คนระมัดระวังมากเมื่อเทียบกับอีกน เธอเชื่อและทำตามสัญชาตญาณค่ะ”

“ฉันเป็นคนที่ยังไม่เชื่อว่าโลกกลม” ประโยคนี้สื่อถึงตัวตนของแทอึลอย่างไร
คิมโกอึน : “มันไม่ใช่ว่าแทอึลคิดว่าโลกมีรูปทรงอื่นอะไรหรอกค่ะ ฉันคิดว่าเธอเป็นคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับ ‘แนวคิดนามธรรม’ พูดง่ายๆ คือ สิ่งที่คนอื่นๆ เชื่อทั้งที่ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองมาก่อน เราต่างก็รู้ว่าโลกกลม แต่เราก็ไม่เคยเห็นมันด้วยตาเราเองว่ามันกลม เพราะฉะนั้น สำหรับแทอึล ไม่จำเป็นต้องเชื่อจนกว่าเธอจะได้เห็นมันด้วยตาตัวเองจริงๆ”


คุณเชื่อว่าจักรวาลคู่ขนานมีอยู่จริงไหม
อูโดฮวาน: “สำหรับผมมันฟังดูน่ากลัวนะ ผมไม่คิดว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ จากโลกนั้น ถ้ามันมีจักรวาลคู่ขนานจริง ผมจะแกล้งคิดว่ามันไม่มีอยู่และใช้ชีวิตของผมต่อไป (หยุดสักพัก) แต่ถ้าใครอยากพาผมไปด้วย ผมก็ไม่รังเกียจที่จะไปนะ บางทีอาจจะลองหาตัวผมอีกคนที่นั่นดู แต่ก็นั่นแหละ มันคงทำให้ผมหวั่นๆ ด้วยความรู้สึกท่วมท้น คิดดูสิว่ามีอีกคนที่เหมือนกับผมเปี๊ยบเลยอยู่ที่นั่น แล้วอาจจะใช้ชีวิตดีหรือแย่กว่าผมก็ได้”
จองอึนแช: “ฉันไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริงนะคะ แต่ก็จินตนาการถึงมัน ฉันคิดว่าโลกที่แตกต่างจากโลกที่เราอยู่มันจะเป็นอย่างไรกันนะ”
คิมคยองนัม: “ผมไม่คิดว่ามีจักรวาลคู่ขนาน แต่ก็ได้ลองจินตนาการดูตอนถ่ายเรื่อง The King คงสนุกดีที่มีผมอีกคนหนึ่งจากโลกอื่น ผมคงไปแฮงก์เอาต์กับเขา แล้วถ้าทุกอย่างโอเค อาจจะลองสลับตัวกันวันสองวันก็ได้”


นับจากการแสดงบทบาทแรก เวลาผ่านไปสิบกว่าปี คุณคิดอย่างไรกับความนิยมของละครและภาพยนตร์เกาหลีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
อีมินโฮ: “ตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นนักแสดงหลังจากแสดงเรื่องแรกเมื่อสิบปีที่แล้วนะ คิดว่าก็เหมือนกับที่เราทุกคนไม่รู้ว่าจุดเปลี่ยนของละครเกาหลีอยู่ที่ตรงไหน แต่ตอนนี้ละครกลายไปไอคอนทางวัฒนธรรม และการได้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้และได้มีโอกาสทำงานกับคนเก่งๆ ถือเป็นประสบการณ์สุดวิเศษในชีวิตผม และยิ่งตอนนี้ เมื่อมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ Netflix ทำให้เราสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่าเดิม ผมอดใจรอนำเสนอผลงานให้คนที่อยู่ในที่ต่างๆ ของโลกได้ชมไม่ไหวแล้วล่ะครับ”