แม้ในเรื่องอาชีพ เบลล่า ราณีจะเดินทางมาถึงจุดพีคที่สุดในการเป็นนักแสดงแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่ง สาววัย 28 ปีคนนี้ก็ยังเปี่ยมไปด้วยพลัง และพร้อมโอบรับทั้งโอกาสและทุกความท้าทายที่เข้ามาในชีวิตเธอเสมอ
คิดว่าสไตล์การแต่งตัวของตัวเองเป็นแบบไหน
“เป็นคนค่อนข้างหลากหลายสไตล์นะ ชอบแต่งตัวขัดกับใบหน้า (หัวเราะ) หน้าเราหวาน จะชอบติดเท่นิดหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนคล่องตัวด้วยมั้ง ชอบทำนู่นทำนี่หลายอย่าง ชอบ less is more มากกว่าค่ะ ถ้าไม่ได้ทำงานจะเริ่มต้นวันด้วยชุดออกกำลังกายบางทีก็อยู่ในชุดออกกำลังกายทั้งวัน มีเสื้อคลุมอีกตัวก็จบแล้ว บางทีก็เป็นแค่เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์ก็พอแล้วค่ะ”
ตอนนี้คงเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดพีคของ
การเป็นนักแสดงแล้ว เบลล่ามีวิธีรับมือกับหลังจากนี้อย่างไรบ้าง
“เบลคิดว่าตอนนี้มันจะไม่ยากเท่ากับตอนที่มันผ่านไปแล้ว และที่เราทำได้คือเราต้องเข้าใจมัน เข้าใจความจริงที่ว่าเราไม่สามารถอยู่ที่จุดนี้หรือจุดหนึ่งไปตลอดหรอก ถ้าเราทำช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าเหนื่อยแล้วจะไม่ยิ้ม เราต้องมีความสุขสิว่าตอนนี้งานวิ่งเข้ามาเยอะมาก มีคนต้องการตัว หรือว่าไปเจอแฟนคลับหรือคนทั่วไปมาขอถ่ายรูป เราควรจะดีใจกับอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ว่า เฮ้อ เหนื่อย สำหรับเบลนะคะ เบลอยากจะทำช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุด อยากให้คนจดจำเราในแบบที่เราเป็นเรา ไม่ใช่เราที่งอแง”
ถ้าการแสดงเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เบลล่าคิดว่า นักแสดงหรือ ‘ศิลปิน’ ที่ดีต้องมีคุณสมบัติอะไร
“อย่างแรกเลยคือต้องซื่อสัตย์กับตัวเองก่อนค่ะ เพราะการแสดงเป็นเรื่องของการใช้อารมณ์ แล้วคนที่จะรู้อารมณ์ตัวละครได้ดีที่สุดคือตัวเราเอง ฉะนั้นเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่าสิ่งที่เราเล่นและสื่อออกไป ฟีลลิ่งมันใช่ไหม มากกว่ากังวลว่าไดอะล็อกจะถูกไหม อีกอย่างคือต้องทำการบ้าน เพราะการจะเล่นเป็นตัวละครตัวหนึ่งก็เหมือนว่าเรากำลังจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนนะ เราก็ต้องไปศึกษาชีวิตเค้าว่าเป็นคนยังไง พ่อแม่เลี้ยงดูมาแบบไหน ซึ่งถ้าไม่ทำการบ้านเลย คุณก็เล่นเป็นอะไรก็ได้สิ มันไม่มีทิศทางเลย และที่สำคัญที่สุดคือตรงต่อเวลา เพราะเราต้องทำงานกับคนเยอะมาก ห้าสิบคนหรือมากกว่านั้น ถ้าปล่อยให้ใครมารอก็ไม่เหมาะค่ะ”
Photographer: Lik Sriprasert
Fashion Director: Pannatorn Boonmahitthisud
Fashion Editor: Apichade Mahikote
Writer: Chidsupang Chaiwiroj